Back icon

กลับ

Contents

    Back to top

    ตลาดกระทิงคืออะไร?

    Time read icon
    Updated ธันวาคม 19, 2024
    Image Written by: Demetris Makrides

    Demetris Makrides

    Senior Business Development Manager

    Time read icon
    10 กันยายน 2567
    Time read icon
    12
    Views icon
    137
    Image Written by: Vitaly Makarenko

    Vitaly Makarenko

    Chief Commercial Officer

    ตลาดกระทิงหมายถึงช่วงเวลาที่ราคาของสินทรัพย์ เช่น หุ้น ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือคาดว่าจะเติบโตต่อไปในอนาคต เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและความคาดหวังที่ดีขึ้น บทความนี้จะเจาะลึกถึงรายละเอียดของตลาดกระทิง โดยพิจารณาถึงลักษณะสำคัญ แรงผลักดัน ระยะ และแนวทางการลงทุนที่นักลงทุนนิยมใช้

    ทำความเข้าใจตลาดกระทิง

    ในโลกการเงิน ตลาดกระทิงไม่ได้หมายถึงแค่การพุ่งขึ้นของราคาในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงช่วงที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมักจะเห็นกำไรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไปแล้ว ตลาดกระทิงจะรับรู้ได้เมื่อดัชนีตลาดหุ้นโดยรวม เช่น S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้น 20% หรือมากกว่าจากจุดต่ำสุด แรงผลักดันเชิงบวกนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น กำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานที่ต่ำ และ GDP ที่ขยายตัว ในช่วงตลาดกระทิงซึ่งอาจกินเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมักจะเพิ่มขึ้น มีคนเข้าร่วมตลาดมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้แรงผลักดันนี้เพิ่มขึ้น

    ภาวะกระทิงอาจพบเห็นได้ในภาคส่วนที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม เช่น สินค้าโภคภัณฑ์และอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คริปโตกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีความผันผวนโดยธรรมชาติ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย ซึ่งนำไปสู่โมเมนตัมขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    ในตลาดกระทิง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเปลี่ยนจากระมัดระวังหรือมองตลาดหมีไปเป็นมองโลกในแง่ดีหรือมองตลาดกระทิง ซึ่งเป็นหนึ่งในลักษณะสำคัญ ทัศนคติเชิงบวกนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เอื้ออำนวย และการฟื้นตัวจากภาวะตลาดตกต่ำ เมื่อนักลงทุนหลั่งไหลเข้ามาคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น ความต้องการก็จะสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นและสร้างวงจรที่ยั่งยืน ในตลาดกระทิง แนวโน้มเชิงบวกและการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวบ่งชี้ที่อาจส่งผลให้ความมั่งคั่งเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสำหรับนักลงทุนที่รอบคอบ

    ลักษณะของตลาดกระทิง

    ในตลาดกระทิง มีองค์ประกอบเฉพาะที่ทำให้ตลาดกระทิงแตกต่างจากสถานการณ์ตลาดอื่นๆ ปัจจัยหลักและเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ในหลายภาคส่วน แนวโน้มขาขึ้นของราคานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่งหรือสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่โดยทั่วไปแล้วสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ

    ในสถานการณ์ตลาดกระทิง นักลงทุนมักมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของตลาด แนวโน้มเชิงบวกนี้ไม่เพียงแต่ติดตามแนวโน้มราคาเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปอีก เมื่อนักลงทุนมีความมั่นใจในการขยายตัวของตลาด พวกเขามีแนวโน้มที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น สกุลเงินดิจิทัล และส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโต ความนิยมในการลงทุนสินทรัพย์เหล่านี้อย่างกระตือรือร้นเช่นนี้เป็นผลมาจากโอกาสในการทำกำไรที่สูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่กิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นและสภาพคล่องในตลาดที่มากขึ้นกว่าปกติ

    ในโลกของการซื้อขายและการลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี แนวโน้มอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงตลาดกระทิง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามามีบทบาท กฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง และสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2017 มูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีที่พุ่งสูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้น และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการเสนอขายเหรียญเริ่มต้น (ICO) เช่นเดียวกัน แนวโน้มขาขึ้นล่าสุดในช่วงปี 2020 ถึง 2021 ได้รับแรงผลักดันหลักจากสถาบันต่างๆ ที่เริ่มหันมาสนใจคริปโทเคอร์เรนซี การเกิดขึ้นของการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในฐานะทางเลือกการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น ตลาดกระทิงถัดไปของคริปโทดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นบนกองทุน ETF คริปโท

    ในช่วงที่ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ตลาดมักจะเห็นกิจกรรมการซื้อขายเพิ่มขึ้นและความสนใจของนักลงทุนเพิ่มขึ้นเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาที่สูงขึ้น การสร้างวงจรของการเสริมแรงเชิงบวกที่อาจยืดระยะเวลาของความเชื่อมั่นและการเติบโตของตลาดออกไปนั้น เป็นไปได้ด้วยการเพิ่มปริมาณเงินทุน ซึ่งผลักดันและผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

    ตลาดกระทิงไม่ได้คงอยู่ตลอดไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มูลค่าจะพุ่งขึ้นถึงระดับที่ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการตั้งราคาสูงเกินไปและความเป็นไปได้ที่ตลาดจะตกต่ำหรือกลับตัว การเข้าใจลักษณะและกลไกภายในของตลาดกระทิงจะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและก้าวผ่านช่วงการเติบโตเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในตลาดการเงินหรือสกุลเงินดิจิทัล ความสามารถในการระบุสัญญาณของตลาดกระทิงและการตอบสนองอย่างเหมาะสมสามารถมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว

    ปัจจัยที่ผลักดันตลาดกระทิง

    ปัจจัยต่างๆ ประกอบกัน รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและจิตวิทยา มักเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดกระทิง และเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น ในด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูซึ่งมีอัตราการเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่ง สถิติการว่างงานต่ำ และผลกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับตลาดกระทิง สัญญาณเศรษฐกิจที่ดีเหล่านี้บ่งชี้ว่าธุรกิจต่างๆ มีกำไรที่ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ในระดับที่ดี และการเติบโตโดยรวมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อมเช่นนี้ย่อมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและแนวโน้มที่จะลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ มากขึ้น

    นโยบายการเงินก็มีบทบาทในการกระตุ้นตลาดกระทิงเช่นกัน เมื่อธนาคารกลางดำเนินนโยบายต่างๆ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยหรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ จะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถระดมทุนเพื่อการเติบโตได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ผู้คนสามารถกู้ยืมเงินและใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ! นอกจากนี้ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุน เช่น พันธบัตร ต่ำลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง นักลงทุนจึงมักหันไปลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อแสวงหาผลตอบแทน ซึ่งส่งผลให้ราคาการลงทุนต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการของธนาคารสามารถสนับสนุนแนวโน้มตลาดกระทิงได้อย่างมีนัยสำคัญ

    อารมณ์และความคิดของนักลงทุนก็เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ข่าวดีอย่างรายงานทางการเงินที่แข็งแกร่งหรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สามารถทำให้นักลงทุนรู้สึกมีความหวังและมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของการลงทุน กระตุ้นให้พวกเขาซื้อหุ้นมากขึ้นเพื่อคาดหวังการเติบโตและผลกำไรที่ดีขึ้นในอนาคต เมื่อนักลงทุนเชื่อว่าราคาจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากข่าวและสถานการณ์เชิงบวก นั่นจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในทิศทางของตลาด ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดวัฏจักรที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นดึงดูดผู้ซื้อที่กระตือรือร้นที่จะคว้าโอกาสแห่งความสำเร็จไว้ได้ แนวโน้มขาขึ้นในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอาจทวีความรุนแรงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น การนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ความชัดเจนทางกฎหมาย หรือความก้าวหน้าทางเทคนิค ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ปัจจัยต่างๆ เช่น โมเมนตัมของตลาดและการเคลื่อนไหวของนักลงทุน ก็สามารถมีส่วนช่วยกระตุ้นแนวโน้มตลาดขาขึ้นได้เช่นกัน เพื่อผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางขาขึ้น นักลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยโมเมนตัมและระบบซื้อขายอัตโนมัติอาจเข้ามาในตลาดเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะยิ่งช่วยกระตุ้นโมเมนตัมให้สูงขึ้นไปอีก ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนป้องกันความเสี่ยง สามารถมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้เนื่องจากมีเงินทุนจำนวนมาก เมื่อองค์กรเหล่านี้เพิ่มการลงทุนและลงทุนในตลาดหุ้นหรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ในตลาดหุ้น ก็จะนำไปสู่กิจกรรมการซื้อขายที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมโมเมนตัมโดยรวมของตลาดขาขึ้น

    ระยะของตลาดกระทิง

    ในกรณีส่วนใหญ่ ตลาดขาขึ้นมักมีระยะเฉพาะเจาะจง โดยมีรูปแบบตลาดและทัศนคติของนักลงทุนที่แตกต่างกันไปในแต่ละระยะ การรู้ระยะเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถกำหนดทิศทางตลาดและตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

    ระยะเริ่มต้นของตลาดกระทิงมักเกิดขึ้นหลังจากช่วงตลาดหมีหรือช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งก่อนสิ้นสุดลง โดยทั่วไปราคามักจะลดลงในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองในแง่ลบ แต่บางคนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับตัวลดลงของตลาด อย่างไรก็ตาม เมื่อสัญญาณทางเศรษฐกิจบางอย่างแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้า เช่น กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภค หรือกลยุทธ์ทางการเงินเชิงบวก นักลงทุนที่ชาญฉลาดจะเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ของการฟื้นตัว ในช่วงเริ่มต้นของวัฏจักรตลาดกระทิง ผู้ที่ปรับตัวรับกับแนวโน้มใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วจะเริ่มซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำลง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นของตลาด

    ขณะที่ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็เพิ่มสูงขึ้น ช่วงเวลานี้มักถูกกำหนดโดยราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมการซื้อขายเริ่มคึกคักขึ้น และผู้คนจำนวนมากขึ้นเข้ามามีส่วนร่วมในตลาด นักลงทุนเริ่มเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องของมูลค่าสินทรัพย์ ในระยะนี้จะมีความรู้สึกเชิงบวกและความเชื่อมั่นว่าช่วงเวลาดีๆ จะยังคงดำเนินต่อไป ในระยะของวัฏจักรตลาดเป็นช่วงที่กำไรส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนจำนวนมากขึ้นก็เข้าร่วมในแนวโน้มขาขึ้นเช่นกัน

    ระยะสุดท้ายของตลาดมักจะเป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุด และเป็นที่รู้กันว่าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและพฤติกรรมการเก็งกำไรที่เสี่ยงภัยของนักลงทุนที่ต้องการคว้ากำไรไว้ ในระยะนี้ เราจะเห็นปรากฏการณ์ของ FOMO หรือความกลัวว่าจะพลาดโอกาส เมื่อนักลงทุนกลัวที่จะพลาดกำไรมากจนตัดสินใจโดยอาศัยอารมณ์และความเชื่อที่ว่าราคาจะยังคงสูงขึ้นต่อไป การลงทุนเก็งกำไรแพร่หลายมากขึ้นเนื่องจากบุคคลทั่วไปแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่รวดเร็ว ระยะนี้ยังมีลักษณะเด่นคือมูลค่าที่พุ่งสูง ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาสินทรัพย์อาจไม่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ และไม่สามารถรักษาระดับราคาให้คงที่ได้ ในระยะนี้ของกระบวนการที่กำไรสามารถมีได้มาก ก็เป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความเสี่ยงสูงสุดที่จะเกิดภาวะถดถอยหรือการเปลี่ยนแปลงทิศทาง

    ถึงจุดหนึ่ง ตลาดจะขึ้นไปสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ราคาจะสูงเกินกว่าที่จะคงอยู่ได้เป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เศรษฐกิจชะลอตัว หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่เลวร้ายซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อตลาด เมื่อนักลงทุนเริ่มขายหุ้นเพื่อทำกำไรหรือออกจากตลาดไปโดยสิ้นเชิง ราคาอาจเริ่มลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาดีๆ ของตลาดกำลังจะสิ้นสุดลง การลดลงนี้อาจนำไปสู่การปรับฐานในตลาด โดยราคาจะลดลง 10% หรือต่ำกว่านั้น นอกจากนี้ยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดหมี ซึ่งราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรงและยาวนาน

    ในโลกของการซื้อขายและการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล วัฏจักรเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง และอารมณ์ที่มีอิทธิพลต่อตลาดก็เช่นกัน การรู้เกี่ยวกับช่วงต่างๆ ของตลาดกระทิงจะช่วยให้นักลงทุนได้เปรียบ โดยช่วยให้คาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อใด และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นว่าจะลงทุนเงินที่ไหน และจะถอนเงินเมื่อใด

    การลงทุนในตลาดกระทิง

    ในตลาดกระทิง ผู้คนมักใช้ประโยชน์จากราคาสินทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมกับจับตาดูความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง กลยุทธ์หนึ่งที่ง่ายและเป็นที่นิยมคือการซื้อและถือสินทรัพย์ไว้ในระยะยาว โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดกระทิง วิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนได้รับประโยชน์จากมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตลาดกระทิงที่ยั่งยืน ซึ่งมีแนวโน้มโดยรวมในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง คือจุดที่กลยุทธ์นี้โดดเด่นในแง่ของประสิทธิภาพ

    ในตลาดกระทิง กลยุทธ์การเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์ (Dollar-Cost Averaging) ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งที่ควรพิจารณา ซึ่งหมายความว่าการลงทุนในสินทรัพย์อย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมโดยไม่คำนึงถึงราคาปัจจุบัน กลยุทธ์นี้ช่วยหลีกเลี่ยงอันตรายจากการพยายามจับจังหวะตลาดให้แม่นยำและบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น

    การมีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้แผนการลงทุนประสบความสำเร็จ เนื่องจากราคาหุ้นอาจปรับตัวสูงขึ้น หุ้นเติบโตจึงมักเป็นที่สนใจในช่วงตลาดกระทิง อย่างไรก็ตาม การกระจายพอร์ตการลงทุนโดยการเพิ่มสินทรัพย์ที่เคยมีการเติบโตในช่วงที่ตลาดกำลังเติบโตโดยทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับภาคส่วนต่างๆ เช่น เทคโนโลยี สินค้าโภคภัณฑ์ และบริการทางการเงิน ซึ่งมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง การลงทุนในคริปโต สิ่งสำคัญคือการกระจายการลงทุนของคุณไปยังเหรียญและโทเคนที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงออปชั่นอย่าง Bitcoin และ Ethereum รวมถึง altcoin ใหม่ๆ ที่อาจมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี นอกจากนี้ การเพิ่มการลงทุนประเภทอื่นๆ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ หรือหุ้นทั่วโลก สามารถช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณและเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการเติบโตและผลกำไร

    นักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงและมีความเต็มใจที่จะลงทุนอย่างกล้าหาญในตลาด สามารถพิจารณาใช้การเทรดแบบมาร์จิ้น (Margin Trading) ซึ่งเป็นการใช้เงินกู้ยืมเพื่อเสริมสถานะการลงทุน เพื่อเพิ่มผลกำไรในสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย เช่น ภาวะตลาดกระทิง หรือแนวโน้มขาขึ้นในวัฏจักรตลาด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่นักลงทุนเหล่านี้ต้องเข้าใจว่ากลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาจเกิดการขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากหากสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวยหรือเกิดภาวะถดถอยอย่างไม่คาดคิด ดังนั้น ผู้ที่เลือกใช้กลยุทธ์แบบเลเวอเรจจึงจำเป็นต้องมีแผนการที่ชัดเจนสำหรับการออกจากสถานะ และควรคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่จะต้องเผชิญกับการเรียกหลักประกัน (Margin Call) หากระดับราคามีความผันผวนอย่างฉับพลันและไม่พึงประสงค์

    นักลงทุนบางรายอาจเลือกใช้กลยุทธ์การหมุนเวียนภาคส่วนการลงทุน โดยย้ายการลงทุนไปยังภาคส่วนที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีในช่วงต่างๆ ของวัฏจักรตลาดขาขึ้น ในช่วงเริ่มต้นของตลาดขาขึ้น หุ้นวัฏจักร รวมถึงหุ้นในภาคอุตสาหกรรมหรือภาคการเงิน อาจได้รับผลตอบแทนสูงเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ในขณะที่ตลาดขาขึ้น หุ้นที่เน้นเทคโนโลยีและการเติบโตอาจมีอิทธิพลเหนือตลาด เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีโมเมนตัมมากขึ้น ช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด พร้อมกับสร้างสมดุลความเสี่ยงต่างๆ ในตลาด

    บทสรุป

    นักลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดและการทำงานของตลาดกระทิงเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มในตลาดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรับรู้ถึงขั้นตอนต่างๆ ของตลาดกระทิงและการใช้กลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายควบคู่ไปกับการคำนึงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถฝ่าฟันช่วงเวลาแห่งการเติบโตนี้ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรทางการเงินให้สูงสุด

    อัปเดต:

    19 ธันวาคม 2567
    Views icon
    137

    Senior Business Development Manager

    Dealing expert with over 8 years of expertise in executing complex financial transactions, navigating market fluctuations, and delivering strategic insights to drive profitability

    5 สิงหาคม 2568

    อ่านเพิ่มเติม

    Read more icon

    24 กรกฎาคม 2568

    Quadcode Group เสร็จสิ้นการขาย QCEX มูลค่า 112 ล้านเหรียญให้กับ Polymarket

    การพนันแบบสเปรดจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีการวิเคราะห์ตลาดที่ดี การกำหนดขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม และการจัดการอารมณ์ มากกว่าโชคหรือการคาดเดา

    อ่านเพิ่มเติม

    Read more icon

    9 กรกฎาคม 2568

    วิธีการซื้อขายไบนารีออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    คุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์ทุนจะสูงหรือต่ำกว่าราคาที่กำหนดไว้เมื่อออปชั่นหมดอายุ

    อ่านเพิ่มเติม

    Read more icon