Back icon

กลับ

Contents

    กลับสู่ด้านบน

    PnL คืออะไร และคำนวณอย่างไร?

    Time read icon
    Updated มิถุนายน 18, 2025
    PnL คืออะไร และคำนวณอย่างไร?
    Image Written by: Demetris Makrides

    Demetris Makrides

    Senior Business Development Manager

    Time read icon
    18 มิถุนายน 2568
    Time read icon
    9
    Views icon
    1119
    Image Written by: Vitaly Makarenko

    Vitaly Makarenko

    Chief Commercial Officer

    กำไรและขาดทุน (P&L) คือตัวชี้วัดผลลัพธ์ทางการเงินในการซื้อขาย โดยแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์ได้กำไรหรือขาดทุนจากสถานะการซื้อขายเฉพาะ หรือในช่วงเวลาที่กำหนด P&L ทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ และเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและการวางแผนเชิงกลยุทธ์

    ทุกสถานะการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือคริปโต ล้วนสร้างผลลัพธ์ที่บันทึกเป็นกำไรหรือขาดทุน ผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคา ขนาดของสถานะ และจุดเข้าและจุดออก กำไรและขาดทุน (P&L) จะได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องสำหรับสถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่ และจะสรุปผลเมื่อปิดสถานะการซื้อขาย

    กำไรขาดทุน (P&L) มีสองรูปแบบหลัก คือ กำไรที่รับรู้แล้ว (Realized) และกำไรที่ยังไม่รับรู้ (Unrealized) กำไรหรือขาดทุนที่รับรู้แล้วจะถูกบันทึกเมื่อปิดการซื้อขาย กำไรขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ หรือ P&L แบบลอยตัว (Floating P&L) หมายถึงผลลัพธ์ต่อเนื่องของสถานะที่เปิดอยู่

    ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำไรและขาดทุนจะช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินผลการดำเนินงานของตนเองได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเสี่ยงและปรับแต่งกลยุทธ์การซื้อขายในตลาดที่มีการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น

    วิธีการคำนวณกำไรขาดทุนในการซื้อขาย

    กำไรและขาดทุน (P&L) ในการซื้อขายจะถูกกำหนดโดยความแตกต่างระหว่างราคาเข้าและราคาออกของสถานะ คูณด้วยขนาดการซื้อขาย การคำนวณขึ้นอยู่กับ ว่าตำแหน่งนั้นจะยาวหรือสั้น

    สำหรับตำแหน่งยาว

    ตำแหน่งยาวคือเมื่อผู้ซื้อขายซื้อสินทรัพย์โดยคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น

    สูตร:

    กำไรและขาดทุน = (ราคาขายออก - ราคาเข้า) × ขนาดตำแหน่ง

    ตัวอย่าง:

    • ซื้อ EUR/USD 1 ล็อตที่ 1.1000
    • ขายที่ 1.1050
    • ขนาดล็อต = 100,000 หน่วย
    • P&L = (1.1050 - 1.1000) × 100,000 = กำไร $500

    สำหรับตำแหน่งขายชอร์ต

    สถานะขายสั้นคือเมื่อผู้ซื้อขายก่อนโดยตั้งเป้าที่จะซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า

    สูตร:

    กำไรและขาดทุน = (ราคาเข้า - ราคาออก) × ขนาดตำแหน่ง

    ตัวอย่าง:

    • ขาย GBP/USD 1 ล็อตที่ 1.2500
    • ซื้อกลับที่ 1.2450
    • ขนาดล็อต = 100,000 หน่วย
    • P&L = (1.2500 - 1.2450) × 100,000 = กำไร $500

    กำไรและขาดทุนอาจเป็นบวก (กำไร) หรือลบ (ขาดทุน) และจะเปลี่ยนแปลงตามเวลาจริงเมื่อตลาดเคลื่อนไหว

    กำไรขาดทุนที่รับรู้แล้วและกำไรขาดทุนที่ยังไม่รับรู้

    เทรดเดอร์มักจะติดตามกำไรและขาดทุนสองประเภท ได้แก่ กำไรที่รับรู้แล้วและกำไรที่ยังไม่รับรู้ ทั้งสองประเภทมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินประสิทธิภาพของบัญชี แต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

    กำไรขาดทุนที่รับรู้แล้ว (Realized P&L) คือกำไรหรือขาดทุนจากสถานะการซื้อขายที่ปิดไปแล้ว เมื่อปิดสถานะการซื้อขายแล้ว ผลลัพธ์จะถูกล็อกไว้และเพิ่มลงในยอดคงเหลือในบัญชีของเทรดเดอร์ กำไรขาดทุนที่รับรู้แล้วสะท้อนถึงกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง

    กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized P&L) หรือบางครั้งเรียกว่ากำไรขาดทุนแบบลอยตัว (Floating P&L) มาจากสถานะเปิด (Open Position) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์จะได้รับกำไรหรือขาดทุนเท่าใดหากปิดสถานะตามราคาตลาดปัจจุบัน ตัวเลขนี้จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและส่งผลต่อมาร์จิ้นที่มีอยู่ แต่จะยังไม่ถือเป็นตัวเลขสุดท้ายจนกว่าจะปิดสถานะ

    ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์เปิดสถานะซื้อทองคำที่ราคา 2,000 ดอลลาร์ และราคาตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2,010 ดอลลาร์ กำไรที่ยังไม่รับรู้จะเท่ากับ 10 ดอลลาร์ต่อหน่วย หากปิดการซื้อขาย กำไรดังกล่าวจะกลายเป็นกำไรที่รับรู้แล้ว

    เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับการติดตามกำไรขาดทุน

    แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ทันสมัยส่วนใหญ่มีฟีเจอร์การติดตามกำไรขาดทุนแบบเรียลไทม์ในตัว เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามผลการดำเนินงาน จัดการความเสี่ยง และประเมินกลยุทธ์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องคำนวณด้วยตนเอง

    • แพลตฟอร์มการซื้อขาย White Label ของ QuadCode - Quadcode นำเสนอโซลูชันการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภทแบบครบวงจร พร้อมระบบติดตามกำไรขาดทุน (P&L) ในตัว และเครื่องคำนวณกำไรขาดทุนในตัว เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบกำไรขาดทุนทั้งที่รับรู้แล้วและยังไม่รับรู้ได้แบบเรียลไทม์ พร้อมข้อมูลเชิงลึกระดับการซื้อขายอย่างละเอียดและตัวบ่งชี้ผลกระทบต่อมาร์จิ้น
    • MetaTrader 4 และ 5 (MT4/MT5) - ทั้งสองแพลตฟอร์มแสดงกำไรและขาดทุนแบบเรียลไทม์ในหน้าต่างเทอร์มินัล เทรดเดอร์สามารถดูสถานะการซื้อขายที่เปิดและปิด กำไรและขาดทุนแบบลอยตัว และยอดคงเหลือในบัญชีทั้งหมด และสามารถส่งออกรายงานเพื่อการวิเคราะห์เพิ่มเติมได้
    • ซีเทรดเดอร์ - นำเสนอการวิเคราะห์ขั้นสูง รวมถึงการแจกแจงกำไรขาดทุนตามสัญลักษณ์ ระยะเวลาการซื้อขาย และปริมาณการซื้อขาย อินเทอร์เฟซนี้ช่วยให้สามารถติดตามกำไรที่รับรู้แล้วและยังไม่รับรู้ได้อย่างละเอียด พร้อมแผนภูมิแสดงผลการดำเนินงานแบบภาพ
    • TradingView (การรวมโบรกเกอร์) - แม้ว่าจะใช้เพื่อการทำแผนภูมิเป็นหลัก แต่ TradingView รองรับการติดตามกำไรขาดทุนเมื่อเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ที่รองรับ แผงพอร์ตโฟลิโอจะแสดงสถานะปัจจุบัน กำไร และเปอร์เซ็นต์กำไรหรือขาดทุน
    • แพลตฟอร์มโบรกเกอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ โบรกเกอร์อย่าง IG, Interactive Brokers และ Saxo Bank นำเสนอแพลตฟอร์มที่ปรับแต่งได้ พร้อมระบบติดตามกำไรขาดทุน (P&L) แบบบูรณาการ รายงานการซื้อขายขั้นสูง และการติดตามการใช้มาร์จิ้น บางรายมีรายงานที่ดาวน์โหลดได้สำหรับการรายงานภาษีและการวิเคราะห์ย้อนหลัง
    • เครื่องมือวิเคราะห์ของบุคคลที่สาม แพลตฟอร์มอย่าง Myfxbook และ FX Blue นำเสนอแดชบอร์ดประสิทธิภาพที่นำเข้าการซื้อขายจากโบรกเกอร์ต่างๆ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจตัวชี้วัดกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น อัตราการชนะ ผลตอบแทนเฉลี่ย การขาดทุน และอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน

    การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูล ไม่ว่าจะผ่านเทอร์มินัลการซื้อขายหรือการวิเคราะห์จากบุคคลที่สาม การติดตามกำไรขาดทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการประสิทธิภาพ

    มุมมองกำไรขาดทุนประเภทต่างๆ ในแพลตฟอร์มการซื้อขาย

    แพลตฟอร์มการซื้อขายมีหลากหลายวิธีในการดูกำไรและขาดทุน ช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินผลการดำเนินงานจากหลากหลายมุมมอง การทำความเข้าใจมุมมองเหล่านี้จะช่วยให้ตีความข้อมูลได้แม่นยำยิ่งขึ้น

    • กำไรและขาดทุนในสกุลเงินเทียบกับ Pips - แพลตฟอร์มบางแห่งแสดงกำไรขาดทุนในสกุลเงินฐานของบัญชี ในขณะที่บางแห่งแสดงเป็น เมล็ด การแสดงผลแบบ Pip ช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของตลาดได้โดยไม่เสียสมาธิจากขนาดตำแหน่งหรือเลเวอเรจ
    • กำไรขาดทุนสะสมเทียบกับกำไรขาดทุนต่อการค้า - กำไรและขาดทุนสะสม (Cumulative P&L) จะสรุปกำไรและขาดทุนในช่วงเวลาที่เลือก ส่วนกำไรและขาดทุนต่อการซื้อขาย (Per-trade P&L) จะแยกย่อยตามการซื้อขายแต่ละรายการ ทั้งสองวิธีนี้มีประโยชน์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังประเมินผลการดำเนินงานโดยรวมหรือกำลังทบทวนกลยุทธ์เฉพาะ
    • มุมมองรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน แพลตฟอร์มส่วนใหญ่อนุญาตให้กรองตามกรอบเวลา ซึ่งจะช่วยระบุแนวโน้มผลการดำเนินงานและช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงหรือต่ำ เทรดเดอร์มักเปรียบเทียบกำไรและขาดทุนรายเดือนเพื่อประเมินความสม่ำเสมอ

    รูปแบบเหล่านี้มีมากกว่าแค่ตัวเลือกการจัดรูปแบบ พวกมันเป็นแนวทางในการประเมินกลยุทธ์ การบันทึกรายการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพในระยะยาว

    กำไรขาดทุนส่งผลต่ออัตรากำไรและเลเวอเรจอย่างไร

    กำไรขาดทุน (P&L) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าสุทธิในบัญชีของเทรดเดอร์ ซึ่งส่งผลต่อมาร์จิ้นและเลเวอเรจที่มีอยู่ เมื่อมูลค่าการซื้อขายผันผวน กำไรขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จะเปลี่ยนแปลงยอดคงเหลือในบัญชีแบบเรียลไทม์

    เมื่อสถานะเกิดการขาดทุน ส่วนของผู้ถือหุ้นในบัญชีจะลดลง ส่งผลให้มาร์จิ้นฟรี (Free Margin) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สามารถเปิดหรือรักษาสถานะการซื้อขายเพิ่มเติมลดลง หากขาดทุนมากเกินไป โบรกเกอร์อาจออกคำสั่งเรียกมาร์จิ้น (Margin Call) เพื่อขอให้เทรดเดอร์เพิ่มเงินทุน ในกรณีร้ายแรง สถานะที่เปิดอยู่อาจถูกปิดเพื่อป้องกันการขาดทุนเพิ่มเติม

    ในทางกลับกัน กำไรจะเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นและมาร์จิ้นอิสระในบัญชี ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งอาจรองรับเลเวอเรจที่สูงขึ้นหรือการกำหนดขนาดสถานะที่ใหญ่ขึ้นได้ แม้ว่าจะเพิ่มความเสี่ยงหากไม่ได้รับการจัดการอย่างรอบคอบก็ตาม

    แพลตฟอร์มการซื้อขายหลายแห่งแสดงมูลค่าสุทธิแบบเรียลไทม์ มาร์จิ้นที่ใช้ และมาร์จิ้นที่มีอยู่ ควบคู่ไปกับกำไรขาดทุน ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถติดตามว่าการซื้อขายปัจจุบันส่งผลต่อความสามารถในการถือครองสถานะอย่างไร และรักษาการปฏิบัติตามข้อกำหนดมาร์จิ้นของโบรกเกอร์

    การใช้กำไรขาดทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์

    กำไรและขาดทุน (P&L) ไม่ใช่แค่คะแนนผลการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายอีกด้วย การตรวจสอบข้อมูลกำไรและขาดทุนอย่างละเอียดสามารถเผยให้เห็นรูปแบบและโอกาสในการปรับปรุงได้

    • ระบุการค้าที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด - เทรดเดอร์สามารถใช้การวิเคราะห์กำไรขาดทุน (P&L) เพื่อดูว่าระบบหรือตลาดใดให้ผลกำไรสูงสุด ซึ่งช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    • ปรับการตั้งค่าความเสี่ยง การขาดทุนเล็กน้อยหรือขาดทุนจำนวนมากที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องปรับจุดตัดขาดทุนหรือขนาดสถานะ ตัวชี้วัดกำไรขาดทุน (P&L) เน้นย้ำว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับความเสี่ยงส่งผลต่อผลกำไรสุทธิอย่างไร
    • ประเมินความถี่ในการซื้อขาย - การซื้อขายที่กำไรต่ำมากเกินไปอาจเป็นสัญญาณของการซื้อขายมากเกินไป การวิเคราะห์กำไรและขาดทุนเฉลี่ยต่อการซื้อขายจะช่วยประเมินว่าการเข้าซื้อที่น้อยลงแต่เลือกมากขึ้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่าหรือไม่

    การวิเคราะห์ข้อมูลกำไรและขาดทุนอย่างสม่ำเสมอทำให้ผู้ค้าได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุง ไม่ใช่แค่เพียงว่าตนได้รับหรือขาดทุนเท่าไร

    ข้อผิดพลาดทั่วไปในการตีความกำไรขาดทุน

    เทรดเดอร์หลายรายมักอ่านข้อมูลกำไรขาดทุน (P&L) ผิด ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด แม้ว่าการคำนวณจะง่าย แต่บริบทและจังหวะเวลาของมูลค่ากำไรขาดทุน (P&L) มีความสำคัญ การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเหล่านี้จะช่วยปกป้องเงินทุนและปรับปรุงผลการดำเนินงานในระยะยาว

    การละเลยการสูญเสียที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

    เทรดเดอร์บางรายมุ่งเน้นเฉพาะกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง (realized P&L) และละเลยการขาดทุนแบบลอยตัว ทำให้เกิดความรู้สึกผิดๆ เกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร การขาดทุนที่เปิดอยู่ยังคงทำให้มูลค่าสุทธิของบัญชีลดลง และอาจทำให้เกิดปัญหามาร์จิ้นได้หากไม่ได้รับการตรวจสอบ

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้ประโยชน์

    ผลกำไรและขาดทุนจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้เลเวอเรจสูง การเคลื่อนไหวของตลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่กำไรหรือขาดทุนจำนวนมาก เทรดเดอร์มักประเมินความรวดเร็วของกำไรและขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงภายใต้เงื่อนไขที่ใช้เลเวอเรจต่ำเกินไป

    ความสับสนระหว่างค่า Pip และ Lot

    การคำนวณกำไรขาดทุน (P&L) ไม่ถูกต้องเนื่องจากความผิดพลาดของค่า pip ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้เริ่มต้น ขนาด pip และขนาดล็อตต้องสอดคล้องกันเพื่อการคำนวณที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคู่สกุลเงินที่ไม่ใช่ USD หรือสกุลเงินแปลกใหม่

    มองข้ามสเปรดและค่าธรรมเนียม

    กำไรและขาดทุนได้รับผลกระทบจากต้นทุนการซื้อขาย การละเลยผลกระทบของค่าสเปรด สวอป และค่าคอมมิชชันอาจทำให้กำไรเกินประมาณการ ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เสมอเมื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน

    ไม่สามารถปรับขนาดตำแหน่งได้

    กำไรในรูปดอลลาร์นั้นแทบไม่มีความหมายอะไรเลยหากปราศจากบริบท กำไร 100 ดอลลาร์จากการเทรดขนาดเล็กอาจสะท้อนถึงผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่ากำไรที่เท่ากันจากการเทรดขนาดใหญ่มาก ควรประเมินกำไรและขาดทุนทั้งในรูปสัมบูรณ์และเชิงเปรียบเทียบ

    เหตุใดการทำความเข้าใจกำไรขาดทุนจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาว

    กำไรขาดทุน (P&L) ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นรากฐานของการตัดสินใจซื้อขายทุกครั้ง เทรดเดอร์ที่ตรวจสอบกำไรขาดทุน (P&L) อย่างสม่ำเสมอจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล การรับรู้นี้ช่วยลดการตัดสินใจด้วยอารมณ์ และมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ที่อิงข้อมูลเป็นหลัก

    การติดตามกำไรขาดทุน (P&L) ที่แม่นยำจะเผยให้เห็นรูปแบบต่างๆ เช่น ตราสารใดให้ผลตอบแทนดีที่สุด หรือรูปแบบการซื้อขายใดที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่ามาตรฐาน นอกจากนี้ยังช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น หากขาดทุนเพิ่มขึ้นเร็วกว่ากำไร เทรดเดอร์จะรู้ว่าถึงเวลาปรับขนาดสถานะ ตั้งค่า Stop Loss หรือกำหนดความเสี่ยงในตลาด

    หากขาดความเข้าใจในกำไรและขาดทุนที่ชัดเจน เทรดเดอร์มักจะประเมินผลการดำเนินงานผิดพลาด การเทรดที่ทำกำไรได้เพียงไม่กี่ครั้งอาจบดบังปัญหาที่ลึกซึ้งกว่า เช่น ความเสี่ยงสูง หรือความเสี่ยงที่มากเกินไป ความสม่ำเสมอในระยะยาวขึ้นอยู่กับการตรวจสอบกำไรและขาดทุนอย่างมีวินัย

    เทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับกำไรขาดทุน (P&L) อย่างจริงจังมักจะซื้อขายแบบหุนหันพลันแล่นน้อยลง เลือกใช้กลยุทธ์ที่มีโครงสร้างชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มมูลค่าในบัญชีเมื่อเวลาผ่านไป กำไรขาดทุนจึงไม่ใช่แค่ตัวชี้วัด แต่ยังเป็นเครื่องมือในการเอาตัวรอดในตลาดที่ผันผวนอีกด้วย

    บทสรุป

    กำไรและขาดทุน (P&L) คือตัวชี้วัดประสิทธิภาพการเทรดขั้นพื้นฐานที่สุด เป็นตัวบอกว่ากลยุทธ์ของคุณได้ผลหรือไม่ และยังบอกด้วยว่าการเทรดของคุณส่งผลต่อบัญชีของคุณอย่างไรในระยะยาว ตั้งแต่การคำนวณพื้นฐานไปจนถึงการติดตามแบบเรียลไทม์ P&L เป็นเครื่องมือหลักสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน

    การเข้าใจวิธีการอ่านและจัดการกำไรขาดทุน (P&L) จะช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย นอกจากนี้ยังช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้นและสร้างความสม่ำเสมอในระยะยาว ไม่ว่าคุณจะซื้อขายด้วยตนเองหรือใช้ระบบอัตโนมัติ การติดตามกำไรขาดทุนที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตและการปกป้องเงินทุน

    FAQ

    P&L ในการซื้อขายหมายถึงอะไร?

    P&L ย่อมาจาก Profit and Loss (กำไรและขาดทุน) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์ได้กำไรหรือขาดทุนจากสถานะการซื้อขายเท่าใด ซึ่งอาจรับรู้ได้ (จากสถานะการซื้อขายที่ปิดแล้ว) หรือยังไม่รับรู้ (จากสถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่)

    กำไรหรือขาดทุนจากการค้าคำนวณอย่างไร?

    สำหรับสถานะซื้อ ให้ลบราคาเข้าออกจากราคาออก แล้วคูณด้วยขนาดสถานะ สำหรับสถานะขาย ให้กลับคำสั่ง

    ความแตกต่างระหว่างกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงและที่ยังไม่เกิดขึ้นคืออะไร?

    กำไรขาดทุนที่รับรู้แล้วสะท้อนกำไรหรือขาดทุนจริงจากการซื้อขายที่ปิดแล้ว กำไรขาดทุนที่ยังไม่รับรู้แสดงมูลค่าปัจจุบันของสถานะที่เปิดอยู่โดยอ้างอิงจากราคาตลาดจริง

    เหตุใดกำไรและขาดทุนจึงมีความสำคัญต่อการซื้อขายแบบมาร์จิ้น?

    กำไรขาดทุน (P&L) ส่งผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในบัญชีของคุณ การขาดทุนจะลดมาร์จิ้นที่มีอยู่ ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกมาร์จิ้น กำไรจะเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นและความยืดหยุ่นในการซื้อขาย

    เครื่องมือใดช่วยติดตามกำไรและขาดทุนแบบเรียลไทม์?

    แพลตฟอร์มอย่าง MetaTrader, cTrader และ TradingView จะแสดงกำไรและขาดทุนแบบเรียลไทม์ เครื่องมืออย่าง Myfxbook นำเสนอการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยการนำเข้าประวัติการซื้อขายจากบัญชีที่เชื่อมโยงกัน

    อัปเดต:

    18 มิถุนายน 2568
    Views icon
    1119

    Senior Business Development Manager

    Dealing expert with over 8 years of expertise in executing complex financial transactions, navigating market fluctuations, and delivering strategic insights to drive profitability

    8 ธันวาคม 2568

    วิธีการสร้างแพลตฟอร์มคาสิโนออนไลน์ในปี 2026

    อ่านเพิ่มเติม

    Read more icon

    5 ธันวาคม 2568

    Bitcoin Liquidation Heatmap and How to Use It for Profitable Trading

    In this comprehensive guide, you’ll learn what the Bitcoin liquidation heatmap is, how it works, and how to apply it for profitable trades.

    อ่านเพิ่มเติม

    Read more icon

    26 พฤศจิกายน 2568

    วิธีการเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายออปชั่นไบนารีของคุณในปี 2026

    การเปิดตัวแพลตฟอร์มเกี่ยวข้องกับการนำทางด้านกฎระเบียบที่ประสบความสำเร็จ การใช้การจัดการความเสี่ยงระดับ A และเทคโนโลยีล้ำสมัย

    อ่านเพิ่มเติม

    Read more icon